เรื่องล่าสุด

หมวดหมู่

สกุล Ariocarpus

สกุล Ariocarpus มีอยู่ด้ยกันทั้งหมด 8 ชนิดกับอีก 2-3 สายพันธุ์ ชื่อสกุล Ariocarpus มาจากคำว่า Aria ซึ่งหมายถึงผลของแคคตัสสกุลนี้นั้นเอง ลักษณะของแคคตัสสกุลนี้ส่วนใหญ่จะมีลำต้นขนาดเล็ก (เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5-15 เซนติเมตร) มักจะขึ้นเป็นต้นเดี่ยวๆ หรืออยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ ต้นอาจจะเตี้ยจนมีผิวด้านบนเสมอกับพื้นดิน

แคคตัสสกุล Ariocarpus นี้บางชนิดจะมีเนินหนามซึ่งอาจะยาวได้ถึง 5 เซนติเมตร เช่น Ariocarpus tri gonus บางชนิดก็มีขนเป็นปุยนุ่มอยู่บนที่ซอกเนินหนามซึ่งเป็นบริเวณที่ออกดอกแต่จะมีบางชนิดที่จะออกดอกบริเวณยอดของต้น ดอกมีลักษณะเป็นรูปกรวย ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-5 เซนติเมตร ดอกมักจะมีสีขาว หรือมีสีครีม มีบางชนิด เช่น Ariocarpus kotschoubeyanus มีดอกสีชมพูหรือสีม่วงแดง ผลมีลักษณะเป็นทรงกระบอก ยาวประมาณ 1.25-2.5 เซนติเมตร

แคคตัสสกุล Ariocarpus มีถิ่นกำเนินอยู่บนทางตอนเหนือของประเทศเม็กซิโกและทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอเมริกา แคคตัสกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีการเจริญเติบโตช้ากว่าแคคตัสสกุลอื่นๆ และจะเจริญเติบโตได้ดีตามหินหรือทรายที่สามารถระบายน้ำได้ ทนแสงแดดจัดๆ ได้ดี

[…]

สกุล Discocactus

สกุล Discocactus แคคตัสสกุลนี้มีอยู่ไม่เกิน 20 ชนิด เจริญเติบโตช้า มักขึ้นเป็นต้นเดี่ยวๆ ทรงกลมแป้น เมื่อต้นมีอายุมากขึ้นอาจะจะแตกหน่อ หรือกิ่งก้านได้ ต้นมีหลายสี ตั้งแต่สีเขียวอ่อน สีเขียวอมน้ำตาล และสีม่วงเข้ม ต้นเป็นสัน 10-25 สัน และมีตุ่มหนามเป็นปุยนุม ประกอบด้วยหนามข้าง 5-20 อัน แต่ละอันยาวประมาณ 3 เซนติเมตร และมักอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม และหนามกลาง 1 อัน ซึ่งยาวถึง 8 เซนติเมตร หนามทั้ง 2 ชนิด สามารถจำแนกออกจากกันได้อย่างชัดเจน หนามมีหลายสี ตั้งแต่สีขาว สีเหลือง สีน้ำตาล จนถึงสีดำ

แคคตัสสกุล Discocactus มีถิ่นกำเนิดอยู่ในบราซิล โบลิเวีย และปารากวัย การนำต้นไปเพาะเลี้ยงที่อื่นนอกถิ่นกำเนิดนั้นมักจะนิยมเพาะต้นจากเมล็ดมากกว่านำต้นที่โตแล้วไปเลี้ยง เพราะต้นจะตายได้ง่าย แคคตัสสกุลนี้เจริญเติบโตได้ดีในดินทรายที่มีธาตุอาหารอุดมสมบูรณ์ บางครั้งอาจะจะใช้ดินผสมก็ได้ แต่ต้องมีการระบายน้ำที่ดี ต้นไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเชียสได้ […]

กลุ่ม Opuntia

กลุ่ม Opuntia กลุ่มนี้เป็ยกลุ่มที่มีอยู่มากมายหลายสกุลด้วยกัน ลักษณะรูปทรงส่วนใหญ่ของทรงต้นมีความแตกต่างกันออกไปหลายรูปแบบ เป็นแคคตัสที่ให้ดอกสีด้วย ทั้งสีขาว สีเหลือง สีส้ม และสีแดง มีใบขนาดเล็ก มี giochids (เมล็ดมีปีก) และมี aril (เยื่อหุ้มเมล็ด) แบ่งออกเป็นสกุล Opuntia , Oereshiopsis , Pterocactus , Quiabentia และ Tacinga มีหลายสายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ Opuntia durangensis , Opuntia ammophila , Opuntia bergeriana , Opuntia microdasys fa. albo เป็นต้น

ลักษณะหนามของแคคตัส

หนามของแคคตัสเกิดจากากรลดรูปของใบกลายเป็นหนามเพื่อช่วยลดการคายน้ำ และป้องกันอันตรายจากคนและสัตว์ สำหรับนามของแคคตัส มี 2 ส่วน คือ 1. หนามกลาง 2. หนามข้าง

จำนวนและลักษณะของหนามจะแตกต่างกันออกไปตามพันธุ์ของแคคตัส เช่น หนามแข็ง หนามอ่อนนุ่มคล้ายขนสัตว์ หนามรูปหวี หรือ มีปลายงอคล้ายตะขอ เป็นต้น ส่วนมากหนามกลางมักจะแข็งแรงและยาวกว่าหนามข้าง แคคตัสบางชนิดจึงมีเพียงหนามกลาง บางชนิดมีเพียงหนามข้าง และบางชนิดไม่มีหนามเลย ส่วนสีของหนามก็มีหลายสีแล้วแต่พันธุ์ และบางครั้งยังสามารถเปลี่ยนแปลงสีไปตามสภาพการเลี้ยงอีกด้วย

สกุล Thelocactus

สกุล Thelocactus แคคตัสในสกุลนี้มีอยู่ประมาณ 25 ชนิดและอีกหลากหลายสายพันธุ์ ชื่อสกุล Thelocactus มาจากภาษากรีก ที่หมายถึง แคคตัสหัวนม (nipple cactus) มีลักษณะทรงกลมหรือทรงกระบอก สีเขียวถึงสีเทาอาจจะขึ้นอยู่เป็ยกลุ่มหรือเป็นต้นเดี่ยวๆ ก็ได้ โครงสร้างของพูกลีบมีลักษณะเป็นหัวย่อยๆ มากมาย ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 20 เซนติเมตร และสูงประมาณ 25 เซนติเมตร ลำต้นเป็นสัน มีประมาณ 20 สัน ตุ่มหนามมีลักษณะทรงกลมหรือรูปไข่ มักมีปุยสีขาวหรือสีครีมปนอยู่ด้วย ประกอบไปด้วยหนามข้างค่อนข้างเล็ก และแข็งแรงปานกลาง มักขึ้นแผ่กระจายแนบขนานไปกับลำต้น ประมาณ 25 อัน แต่ละอันยาวมากกว่า 3 เซนติเมตร ส่วนหนามกลางแข็งแรงกว่าหนามข้าง มีหลายลักษณะด้วยกัน เช่น โค้งงอ หรืออ้วน และมีหลายสี เช่น สีขาว สีเหลือง สีแดง และสีดำ มีอยู่ประมาณ 1-4 อัน

ดอกมีหลายสีด้วยกัน […]