เรื่องล่าสุด
-
สกุล Uebelmannia
เมษายน 19, 2025
-
ดินปลูกสำหรับแคคตัส
เมษายน 18, 2025
-
สกุล Ferocactus
เมษายน 18, 2025
-
สกุล Dolichothle
เมษายน 17, 2025
-
สกุล Aztekium
เมษายน 17, 2025
-
สกุล Corypantha
เมษายน 16, 2025
-
สกุล Lophocereus
เมษายน 16, 2025
-
กลุ่ม Hylocereus
เมษายน 16, 2025
-
ส่วนประกอบของแคคตัส
เมษายน 15, 2025
-
การจำแนกสายพันธุ์ของแคคตัส
เมษายน 15, 2025
|
สกุล Uebelmannia แคคตัสในสกุลนี้มีอยู่ด้วยกัน 5 ชนิด ลำต้นมีลักษณะทรงกลม และทรงกระบอก ขนาดเล็ก ลำต้นเป็นสันสีน้ำตาลอมแดง ผิวต้นเป็นมันคล้ายเคลือบด้วยขี้ผึ้ง สันต้นประกอบไปด้วยตุ่มหนามที่มีปุยสีขาว ปกคลุม และมีหนามแข็ง สั้นๆ ตั้งตรงสีขาวอยู่ 2-3 อัน ดอกมีสีเหลือง ลักษณะทรงกรวย ขนาดเล็ก จะผลิดอกบริเวณปลายยอดของต้น ผลมีลักษณะทรงกลมหรือทรงกระบอก สีเหลืองอมเขียวหรือสีแดง เกิดบริเวณปลายยอดของต้น เมล็ดมีลักษณะทรงกลมหรือรูปไข่ สีดำ หรือสีน้ำตาล ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2.3 มิลลิเมตร
แคคตัสในสกุล Uebelmannia มีถิ่นกำเนิดในบราซิล ชอบดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ ร่มเงา ความชื้นในอากาศต่ำ และอากาศอบอุ่น และที่สำคัญก็คือไม่ควรงดให้น้ำโดยการรดลงดินโดยตรง แต่ควรให้โดยการฉีดพ่นเป็นฝอยจะดีกว่า
คนส่วนใหญ่มักจะเข้าใจกันว่า แคคตัสเป็นพืชที่ชอบขึ้นอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศร้อนแห้งแล้ง อย่างทะเลทราย แต่ในความเป็นจริงแล้วแคคตัสสามารถเจริญเติบโตได้ดีในหลายๆ พื้นที่ เช่น บริเวณชายฝั่งทะเล บริเวณทุ่งหญ้า ในป่าที่มีความชื้นสูง ที่ความสูงระดับน้ำทะเลไปจนถึงที่ระดับความสูงกว่า 4,000 เมตร อากาศหนาวเย็น เช่นทางตอนเหนือและตอนใต้ของอเมริกา ที่อากาศร้อนแห้งแล้ง เช่น ทะเลทราย บริเวณที่ราบ ตามซอกไหล่กินเขาซึ่งมีดินอุดมสมบูรณ์ หรือเป็นหินแข็ง
นอกจากนี้ยังพบว่ามีแคคตัสหลายชนิดที่เจริญเติบโตได้โดยอาศัยร่มเงาและความชื้นจากพืชในกลุ่ม Xerophyte พวก Selaginella Lepidophylla (Resurrection Plant) เช่น แคคตัสพวก Ephithelantha bokei ซึ่งเจริญเติบโตขึ้นจากเมล็ด นั่นแสดงให้เห็นว่าแคคตัสสามารถเจริญเติบโตได้ดีในทุกสภาพพื้นที่ และสภาพอากาศของโลกเกือบทั่วไปไม่จำกัด เฉพาะแถบทะเลทรายเท่านั้น แคคตัสจึงเหมือนกับพืชชนิดอื่นๆ ที่ต้องการวัสดุปลูกที่มีความอุดมสมบูรณ์ หรือเป็นดินผสมที่มีความอุดมสมบูรณ์ หรือเป็นดินผสมที่มีความอุดมสมบูรณ์ โปร่งรวน น้ำไหลผ่านได้สะดวก ไม่อุ้มน้ำ และรักษาความชื้นได้ดี
ส่วนผสมของวัสดุปลูกแคคตัสนั้นโดยส่วนมากนิยมใช้ ดังนี้ – ดิน ควรเป็นดินร่วนหรือดินร่วนเหนียว โดยการนำดินไปตากให้แห้ง นำไปทุบให้ร่วนเป็นเม็ดเล็กๆ จากนั้นให้นำไปตากแดดจัดๆ อีกประมาณ 1-2 […]
สกุล Ferocactus แคคตัสในสกุลนี้มีอยู่ประมาณ 40 ชนิด ชื่อสกุล Ferocactus มีความหมายว่าหนามที่แข็งแรงมาก แคคตัสในสกุลนี้มีรูปร่างลักษณะแตกต่างกันออกไปมากมาย เช่น ต้นเป็นทรงกลมหรือทรงกลมแป้น มีขนาดเล็ก หรืออาจะจะเป็นต้นสูงได้ถึง 3 เมตรและมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางมากกว่า 1 เมตร ส่วนมากมักจะขึ้นเป็นต้นเดี่ยวๆ แต่ก็อาจจะพบได้ 2-3 ชนิดที่จะขึ้นอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม 20-30 ต้น เช่น ชนิด Ferocactus staninesii บริเวณลำต้นจะมีส่วนที่คล้ายกับหัวเล็กๆ แต่ส่วนนั้นมักจะถูกกลืนหายไปกับสันลำต้นในเวลาต่อมา ลำต้นเป็นสัน 8-30 สันและมีลักษณะแตกต่างกันออกไปตามแต่ชนิดของมัน บางชนิดอาจขึ้นเป็นแถวตรง แต่บางชนิดอาจมีลักษณะบิดเป็นเกลียว ตุ่มหนามมีขนาดใหญ่ ประกอบด้วยหนามข้างที่แข็งมาก มีลักษณะอ้วนและแผ่กระจายไปโดยรอบ ประมาณ 10-20 อัน แต่ละอันยาวประมาณ 7.5 เซนติเมตร และหนามกลางซึ่งโผล่ตั้งออกมาจากตุ่มหนาม ตรงปลายหนามมีลักษณะเป็นรูปตะขอแข็ง ประมาณ 4 อัน และยาวได้ถึง 15 เซนติเมตร
ดอกมีลักษณะเป็นทรงระฆัง เกิดขึ้นที่บริเวณตุ่มหนามเป็นวงกลมตอนบนของต้นมีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5-7.5 […]
สกุล Dolichothle แคคตัสสกุลนี้มีอยู่ทั้งหมด 10 ชนิด ชื่อสกุล Dolichothle มาจากภาษากรีก หมายถึง เนินหนาม หรือลักษระที่ยาวยื่นออกมา ต้นมักมีขนาดเล็กแคระ ขึ้นอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม ต้นเดี่ยวๆ จะมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2.5-7.5 เซนติเมตร ประกอบด้วยเนินหนามยาวนุ่มสีขาว ซอกเนินหนามม้วนสั้นเป็นปุยนุ่ม ที่ยอดเนินหนามประกอบด้วยตุ่มหนามซึ่งมีหนามกลางมากถึง 10 อัน ส่วนในบริเวณอื่นจะมีหนามกลางประมาณ 4-5 อัน แต่บางชนิดก็ไม่มีเลย บางชนิดก็อาจมีหนามกลางเพียง 1 อัน และมีปลายงอเป็นตะขอ หนามเปราะหักง่าย ยาวประมาณ 1.25-2.5 เซนติเมตร มีสีขาว สีเหลือง และสีน้ำตาล ดอกมีกลิ่นหอม เส้นผ่าศูนย์กลาง 5-7.5 เซนติเมตร มักอยู่ในโทนสีเหลือง ผลยาวประมาณ 2.5 เซนติเมตร เมื่อสุกมีสีเขียวถึงสีเขียวอมแดง
แคคตัสสกุล Dolichothle มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางแถบเม็กซิโก และทางตะวันออกเฉียงใต้ของอเมริกา ขยายพันธุ์ได้ทั้งเพาะเมล็ดและการแยกหน่อ และในบางชนิดหน่อใหม่ที่แตกออกมาจากต้นเก่าจะมีรากติดมาด้วย สามารถเจริญเติบโตได้ดีในที่ที่มีร่มเงา […]
สกุล Aztekium สกุลนี้มีเพียงชนิดเดียวเท่านั้น คือ Aztekium ritteri ชื่อสกุล Aztekium ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ The AZtek Race สกุลนี้มีลักษณะรูปร่างเป็นทรงกลมแป้น ขึ้นเป็นต้นเดี่ยวเมื่อมีอายุมากขึ้นจะเกิดการแตกเป็นต้นเล็กๆ ออกมาและอยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ กลุ่มหัวเดี่ยวๆ มีขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 5 เซนติเมตร มีสันต้นประมาณ 11 สัน ลักษณะเป็นรอยย่นซ้อนทับกันอยู่ในแต่ละกลีบ สีของต้นมีตั้งแต่สีเขียวจนไปถึงสีเขียวออกเทา บริเวณ ตอนกลางด้านบนของต้นปกคลุมด้วยปุยนุ่มสีขาว ตุ่มหนามมีขนาดเล็ก ประกอบด้วยหนามอ่อนขนาดเล็ก 3 อัน
ดอกมีขนาดเล็ก เส้นผ่าศูนย์กลางไม่เกิน 1 เซนติเมตร กลีบดอกมีสีขาว กลีบรองดอกมีสีชมพู เกิดได้ทุกบริเวณของต้น ผลมีลักษณะคล้ายผลเบอรี่ มีขนาดเล็ก สีชมพู ขึ้นกระจัดกระจายทั่วไปบนปุยสีขาวตอนบนของต้น เมื่อผลแก่เต็มที่จะแห้งและแตกออก เมล็ดมีขนาดเล็กมาก
แคคตัสสกุล Aztekium มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตอนกลางของเม็กซิโก มักขึ้นอยู่บริเวณหน้าผาสูงชันหรือตามซอกเขา ในพื้นที่ที่มีสภาพอากาศแห้งแล้งขยายพันธุ์โดยการแยกต้นและการเพาะเมล็ด แต่ต้องดูแลรักษาเป็นพิเศษในช่วงเพาะ ส่วนต้นเมื่ออยู่ในระยะพร้อมออกดอกนั้น ควรใช้ดินผสมในการปลูก เพราะจะช่วยในการระบายน้ำได้ดี ในช่วงฤดูหนาวถ้าหากงดการให้น้ำ […]
|
|