เรื่องล่าสุด

หมวดหมู่

การขยายพันธุ์แคคตัสโดยการตัดแยก

การขยายพันธุ์แคคตัสโดยการตัดแยก แคคตัสส่วนใหญ่สามารถแตกสาขาออกไปได้อย่างอิสระ ดังนั้นจึงเป็นการง่ายที่จะตัดส่วนที่จะเกิดขึ้นมาใหม่ออกมาโดยใช้อุปกรณ์เพียงมีดคมเท่านั้น ซึ่งส่วนที่ถูกตัดแยกออกมาจากต้นนั้นเมื่อนำมาปลูกใหม่มักจะเกิดรากได้ง่าย เช่น สกุล Echiopsis , Epiphyllum , Opuntia , Zygocactus เป็นต้น การขยายพันธุ์แคคตัสด้วยวิธีนี้ควรทำในฤดูฝน เพราะสภาพอากาศเหมาะสมต่อการเจริญเติบโต และควรตัดในบริเวณที่แคบที่สุด

เมื่อตัดต้นกิ่ง หรือหัวย่อย ออกมาแล้ว ควรนำมาผึ่งจนกระทั่งรอยตัดแห้งดี เป็นเวลาประมาณ 10-14 วัน แต่ในกรณีที่เป็นชนิดที่มีลำต้นขนาดใหญ่และต้องตัดบริวเณที่กว้าง การจะปล่อยให้แห้งควรใช้เวลาประมาณ 3-4 สัปดาห์ หลังจากนั้นนำมาจุ่มในผงอะลูมิเนียม (aluminium powder) หรือฮอร์โมนเร่งราก (rooting hormones) เช่น NAA (Napthalene Acetic Acid เป็นสารสังเคราะห์ชนิดหนึ่งจัดอยู่ในกลุ่มออกซิน มีผลในการแบ่งเซลล์และเร่งการเจริญเติบโตของเซลล์นิยมนำมาใช้เป็นสารชักนำให้เกิดราก) , IAA (Indole Acetic Acid: เป็นสารควบคุมการเจริญเติบโตในกลุ่มออกซิน ที่พืชสร้างขึ้นเองโดยธรรมชาติ มีผลในการแบ่งเซลล์) , IBA (Indole Butaris Acid: เป็นสารควบคุมการเจริญเติบโตในกลุ่มออกซิน มีผลในการแบ่งเซลล์ นิยมนำมาใช้เป็นสารชักนำให้เกิดราก) เพื่อช่วยในการป้องกันเชื้อโรค แต่อย่างไรก็ตาม บางครั้งฮอร์โมนก็ไม่มีผลอะไรต่อแคคตัสมากนัก จะใช้ได้ผลดี ก็สำหรับชนิดที่แตกรากช้าเท่านั้น

เมื่อเตรียมต้นที่ตัดแยกออกมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วนำมาลงชำ หรือเพราะในวัสดุปลูกที่มีธาตุอาหารอุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำดี แต่ต้องสามารถเก็บความชื้นได้สม่ำเสมอ ส่วนมากเราจึงมักปักส่วนที่ตัดแยกออกมาลงในทรายซึ่งผสมกับดินปุ๋ยโดยให้มีส่วนผสมของทรายมากกว่า จากนั้นควรวางกระถาง ไว้ในที่ที่ร่มเงา อากาศถ่ายเทและอบอุ่น เมื่อรากใหม่งอกแล้วควรรดน้ำ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์

สกุล Ariocarpus

Ariocarpus

สกุล Ariocarpus มีอยู่ด้ยกันทั้งหมด 8 ชนิดกับอีก 2-3 สายพันธุ์ ชื่อสกุล Ariocarpus มาจากคำว่า Aria ซึ่งหมายถึงผลของแคคตัสสกุลนี้นั้นเอง ลักษณะของแคคตัสสกุลนี้ส่วนใหญ่จะมีลำต้นขนาดเล็ก (เส้นผ่าศูนย์กลาง 2.5-15 เซนติเมตร) มักจะขึ้นเป็นต้นเดี่ยวๆ หรืออยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ ต้นอาจจะเตี้ยจนมีผิวด้านบนเสมอกับพื้นดิน

แคคตัสสกุล Ariocarpus นี้บางชนิดจะมีเนินหนามซึ่งอาจะยาวได้ถึง 5 เซนติเมตร เช่น Ariocarpus tri gonus บางชนิดก็มีขนเป็นปุยนุ่มอยู่บนที่ซอกเนินหนามซึ่งเป็นบริเวณที่ออกดอกแต่จะมีบางชนิดที่จะออกดอกบริเวณยอดของต้น ดอกมีลักษณะเป็นรูปกรวย ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 2-5 เซนติเมตร ดอกมักจะมีสีขาว หรือมีสีครีม มีบางชนิด เช่น Ariocarpus kotschoubeyanus มีดอกสีชมพูหรือสีม่วงแดง ผลมีลักษณะเป็นทรงกระบอก ยาวประมาณ 1.25-2.5 เซนติเมตร

แคคตัสสกุล Ariocarpus มีถิ่นกำเนินอยู่บนทางตอนเหนือของประเทศเม็กซิโกและทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศอเมริกา แคคตัสกลุ่มนี้ถือว่าเป็นกลุ่มที่มีการเจริญเติบโตช้ากว่าแคคตัสสกุลอื่นๆ และจะเจริญเติบโตได้ดีตามหินหรือทรายที่สามารถระบายน้ำได้ ทนแสงแดดจัดๆ ได้ดี

สกุล Discocactus

Discocactus

สกุล Discocactus แคคตัสสกุลนี้มีอยู่ไม่เกิน 20 ชนิด เจริญเติบโตช้า มักขึ้นเป็นต้นเดี่ยวๆ ทรงกลมแป้น เมื่อต้นมีอายุมากขึ้นอาจะจะแตกหน่อ หรือกิ่งก้านได้ ต้นมีหลายสี ตั้งแต่สีเขียวอ่อน สีเขียวอมน้ำตาล และสีม่วงเข้ม ต้นเป็นสัน 10-25 สัน และมีตุ่มหนามเป็นปุยนุม ประกอบด้วยหนามข้าง 5-20 อัน แต่ละอันยาวประมาณ 3 เซนติเมตร และมักอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม และหนามกลาง 1 อัน ซึ่งยาวถึง 8 เซนติเมตร หนามทั้ง 2 ชนิด สามารถจำแนกออกจากกันได้อย่างชัดเจน หนามมีหลายสี ตั้งแต่สีขาว สีเหลือง สีน้ำตาล จนถึงสีดำ

แคคตัสสกุล Discocactus มีถิ่นกำเนิดอยู่ในบราซิล โบลิเวีย และปารากวัย การนำต้นไปเพาะเลี้ยงที่อื่นนอกถิ่นกำเนิดนั้นมักจะนิยมเพาะต้นจากเมล็ดมากกว่านำต้นที่โตแล้วไปเลี้ยง เพราะต้นจะตายได้ง่าย แคคตัสสกุลนี้เจริญเติบโตได้ดีในดินทรายที่มีธาตุอาหารอุดมสมบูรณ์ บางครั้งอาจะจะใช้ดินผสมก็ได้ แต่ต้องมีการระบายน้ำที่ดี ต้นไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเชียสได้

กลุ่ม Opuntia

Opuntia

กลุ่ม Opuntia กลุ่มนี้เป็ยกลุ่มที่มีอยู่มากมายหลายสกุลด้วยกัน ลักษณะรูปทรงส่วนใหญ่ของทรงต้นมีความแตกต่างกันออกไปหลายรูปแบบ เป็นแคคตัสที่ให้ดอกสีด้วย ทั้งสีขาว สีเหลือง สีส้ม และสีแดง มีใบขนาดเล็ก มี giochids (เมล็ดมีปีก) และมี aril (เยื่อหุ้มเมล็ด) แบ่งออกเป็นสกุล Opuntia , Oereshiopsis , Pterocactus , Quiabentia และ Tacinga มีหลายสายพันธุ์ด้วยกัน ได้แก่ Opuntia durangensis , Opuntia ammophila , Opuntia bergeriana , Opuntia microdasys fa. albo เป็นต้น

กลุ่ม Echinopsis

กลุ่ม Echinopsis

กลุ่ม Echinopsis มีลักษณะคล้ายกับกลุ่ม Cereus แต่ลำต้นมีขนาดเล็กกว่า ดอกมีลักษณะเป็นหลอด และผิวด้านนอกของดอกมักมีขนหรือเกล็ดสั้นๆ ปกคลุมอยู่

แคคตัสกลุ่มนี้แบ่งออกเป็นหลายสกุลด้วยกันได้แก่ Acanthocalycium , Arequipa , Arthrocereus , Borzicactus , Cephalocleistocactus , Chamaecereus , Cleistocactus , Denmoza , Echinopsis , Espostoa , Haageocereus , Hildewintera , Lobivia , Matuacana , Mila , Oreocereus , Oroya , Rebutia , Soehrensai , Sulcorebutia , Thrizanthocereus , Weberbauerocereus และ Weingartia