เรื่องล่าสุด
-
สกุล Hamatocactus
กรกฎาคม 6, 2025
-
ลักษณะทั่วไปของแคคตัส
กรกฎาคม 6, 2025
-
สกุล Stetsonia
กรกฎาคม 5, 2025
-
สกุล Echinofossulocactus
กรกฎาคม 5, 2025
-
โรคจากแมลง
กรกฎาคม 4, 2025
-
สกุล Obregonia
กรกฎาคม 4, 2025
-
สกุล Cephalocereua
กรกฎาคม 3, 2025
-
โรคจากเชื้อโรค
กรกฎาคม 3, 2025
-
สกุล Cleistocactus
กรกฎาคม 2, 2025
-
สกุล Rebutia
กรกฎาคม 2, 2025
|
ชื่อสกุล Lophocereus มาจากคำว่า lophos ซึ่งหมายถึง ยอดของต้นที่ประกอบไปด้วยขนสั้นและแข็ง ต้นมีลักษณะทรงกระบอก สีเขียวสด เป็นมัน แตกกิ่งก้านได้อย่างอิสระ ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 10 เซนติเมตร และสามารถสูงได้ถึง 10 เมตร ลำตันเป็นเป็นสัน มีประมาณ 5-15 สัน ตุ่มหนามมีลักษณะทรงกลม ซึ่งตุ่มหนามบริเวณตอนบนของต้นที่เจริญเติบโตเต็มที่แล้วพร้อมออกดอกจะมีขนาดใหญ่กว่าต้นที่ยังเจริญเติบโตไม่เต็มที่ ตุ่มหนามประกอบไปด้วยหนามข้าง 5-10 อัน แต่ละอันยาวประมาณ 1-2 เซนติเมตร และมีหนามกลาง 1-5 อัน แต่สำหรับต้นที่เจริญเติบโตเต็มที่จะประกอบไปด้วยหามสั้นและแข็ง ประมาณ 25-50 อัน ซึ่งสามารถยาวได้ถึง 2.5-6 เซนติเมตร
ดอกมีลักษณะทรงกรวย สีขาวหรือสีชมพู ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 4 เซนติเมตร ผลมีลักษณะทรงกลม เมื่อผลสุกจะเป็นสีแดง ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1.25 เซนติเมตร
แคคตัสสกุล Lophocereus มีถิ่นกำเนิดอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของเม็กซิโก และทางตะวันตกเฉียงใต้ของอเมริกา […]
กลุ่ม Hylocereus แคคตัสกลุ่มนี้เป็นชนิดเลื่อย มีลักษณะคล้ายกับกลุ่ม Cereus แต่จัดเป็นพืชพวก epiphytic (พืชที่ดำรงชีวิตอยู่โดยอาศัยพืชอื่น แต่ไม่ทำอันตรายหรือแย่งอาหารพืชที่อาศัยอยู่) มีระบบรากอากาศ (aerial roots) เป็นพืชที่ต้องการแสงและอุณหภูมิสูง ลำต้นของแคคตัสกลุ่มนี้มีลักษณะเป็นสัน หนามค่อนข้างอ่อนแอ ดอกออกในฤดูร้อน ดอกมีสีขาว แดง และชมพู
แคคตัสกลุ่มนี้มีอยู่มากมายหลายสกุล ได้แก่ Aporocactus , Crytocereus , Deamia, Disocactus , Epiphyllum , Heliocereus , Hylocereus , Mediocactus , Nopalxochia , Pfeiffera , Rhipsalidopsis , Rhipsalis , Schenicereus , Weberocereus , Wittia และ Zygocactus มีหลายสายพันธุ์ เช่น Hylocereus […]
ส่วนประกอบของแคคตัส แคคตัสส่วนใหญ่จะมีรูปร่างลักษณะแตกต่างกันออกไปมากมาย เช่น ทรงกลม ทรงกระบอก มีทั้งที่ขึ้นเป็นต้นเดี่ยวๆ และขึ้นอยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ ขนาดก็มีทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 15 เซนติเมตร สูงไม่เกิน 5 เมตร จนถึงต้นที่มีขนาดใหญ่ๆ ซึ่งจะสูงประมาณ 24-25 เมตร ส่วนประกอบอื่นๆที่มีลักษณะคล้ายๆ กันคือ
ลำต้นมีลักษณะอวบน้ำ ผิวลำต้นคล้ายเคลือบด้วยขี้ผึ้ง และมีส่วนประกอบที่เรียกว่าตุ่มหนาม ไม่มีใบที่แท้จริง เพราะใบลดรูปกลายเป็นหนาม ช่วยลดการคายของน้ำ ยกเว้นสกุล Pereskia ที่ยังคงมีใบที่แท้จริงให้เห็นอยู่และยังช่วยดูดเอาไอน้ำในอากาศมาเก็บไว้ ดอกเป็นแบบไม่มีก้านดอก มักเกิดจากตาดอกที่บริเวณตุ่มหนาม ยกเว้นสกุล Echinocereus ซึ่งมีตาดอกเกิดที่ผิวต้นใกล้เนินหนามสกุล Mammillaria และ Coryphantha ซึ่งมีตาดอกเกิดระหว่างซอกเนินหนาม สกุล Melocactus , Iscocactus และ Cephalacereus ที่สามารถเกิดตาดอกขึ้นที่ส่วนยอดของต้น ซึ่งมีลักษณะเป็นปุยนุ่มสีขาวหรือสีครีม […]
การจำแนกสายพันธุ์ของแคคตัสเป็นกลุ่ม
แคคตัสจัดเป็นพืชในวงศ์ Cactaceae มีอยู่ทั่วโลกทั้งสิ้น 50-150 สกุลด้วยกัน หรือประมาณ 2,000 ชนิด ซึ่งแบ่งตามวิธีของ Gordon Rowley (หนังสือ The Illustrated Encyclopaedia of Succulents) ได้เป็นกลุ่มต่างๆ ดังนี้
กลุ่ม Ario Carpus กลุ่ม Astrophytum กลุ่ม Cereus กลุ่ม Echinocactus กลุ่ม Echinocereus กลุ่ม Echinopsis กลุ่ม Epiphyllum กลุ่ม Hylocereus กลุ่ม Lobivia กลุ่ม Mammillaria กลุ่ม Melocactus กลุ่ม Neopoteria กลุ่ม Opuntia กลุ่ม Pereskia กลุ่ม Pilocereus กลุ่ม Rebutia […]
การปลูกแคคตัสในกระบะหรือถาด ควรเลือกแคคตัสที่มีลักษณะลำต้นเป็นทรงกลมหรือมีทรงต้นไม่สูงนักโดยปลูกให้มีระยะห่างของแต่ละต้นเท่าๆ กัน และควรปลูกในถาดหรือกระบะที่มีขนาดไม่ใหญ่นัก เพื่อความสะดวกในการเคลื่อนย้าย
การปลูกลงดิน ควรเลือกทำเลที่มีการระบายน้ำที่ดี น้ำไม่ขัง ควรเป็นที่กลางแจ้ง มีแสงแดดส่องถึงในปริมาณวันละ 3-4 ชั่วโมง เป็นอย่างน้อย แต่ควรระวังเรื่องดินผสม อย่าให้ดินแน่นจนเกินไป อาจใช้วิธียกเป็นแปลงปลูกให้สูงกว่าระดับดินโดยรอบก็ได้
|
|