เรื่องล่าสุด
-
กลุ่ม Astrophytum
พฤษภาคม 7, 2024
-
ขั้นตอนการเพาะเมล็ด
พฤษภาคม 7, 2024
-
กลุ่ม Ario carpus
พฤษภาคม 6, 2024
-
สกุล Notocactus
พฤษภาคม 6, 2024
-
การให้ปุ๋ยและแร่ธาตุอาหาร
พฤษภาคม 6, 2024
-
สกุล Opuntia
พฤษภาคม 5, 2024
-
ลักษณะผลของแคคตัส
พฤษภาคม 5, 2024
-
ลักษณะดอกของแคคตัส
พฤษภาคม 4, 2024
-
กลุ่ม Melocactus
พฤษภาคม 4, 2024
-
กลุ่ม Cereus
พฤษภาคม 3, 2024
|
สกุล Cephalocereua แคคตัสในสกุลนี้มีอยู่เพียงชนิดเดียว คือ Cephalocereus Senilis ชื่อสกุล Cephalocereus มาจากภาษากรีก หมายถึง Cehpalium ซึ่งเป็นบริเวณที่เกิดดอก ลักษณะลำต้นตั้งตรง มีสีเขียวอ่อน และจะเปลี่ยนเป็นสีเทาเมื่อมีอายุมากขึ้น ไม่ค่อยแตกกิ่งก้าน ลำต้นเป็นสันเตี้ย ประมาณ 30 สัน ตุ่มหนามอยู่ชิดติดกัน มีหนามสีเหลืองหรือสีเทา 5 อัน ยาวประมาณ 3-5 เซนติเมตร และมีขนสีขาว หรือสีเทาหยาบๆ พันรอบลำต้น ขนนี้จะช่วยปกคุลมอย่างหนาแน่น ซึ่งจริงๆ แล้วเป็นการช่วยปกปิดสีที่แท้จริงของต้นนั่นเอง
ดอกมีลักษณะเป็นรูปทรงกรวย เส้นผ่าศูนย์กลาง 7.5 เซนติเมตร ยาวประมาณ 10 เซนติเมตร มีสีขาวหรือสีเหลือง ดอกจะเกิดที่บริเวณ Cephalium ด้านบนของต้น เมื่อมีอายุมากขึ้นจะพบ Cephalium กระจายอยู่รอบต้นบริเวณด้านนอกของโคนก้านดอกและบริเวณรังไข่จะมีขนขึ้นปกคลุม
แคคตัสสกุล Cephalocereus ขยายพันธุ์ได้ง่าย ด้วยการเพาะเมล็ดและการตัดแยกต้น แต่ในระยะแรกของการปลูกเลี้ยงนั้น ควรเพิ่มความระมัดระวังในการดูแลเป็นพิเศษทั้งในเรื่องการให้น้ำ […]
โรคจากเชื้อโรคของแคคตัสมีอยู่ด้วยกัน 3 โรคหลักๆ คือ
1. เชื้อไวรัส (virus) เกิดกับแคคตัสบางสกุลเท่านั้น เช่น สกุล Epiphyllum มีลักษณะเป็นจุดสีเหลืองๆ หรือสีม่วง มีผลในการทำลายดอก สามารถกำจัดได้โดยการตัดส่วนที่เป็นโรคทิ้งแล้วเผาทำลาย
2. เชื้อ Corky Scab เกิดกับแคคตัสในสกุล Opuntia และ Epiphyllum อาการที่พบได้คือ เป็นฝุ่นสนิมหรือจุดบนลำต้น ซึ่งเกิดจากการที่เชื้อชนิดนี้เข้าไปทำลายเนื้อเยื่อ ทำให้ต้นเหี่ยวและยุบลง เมื่อพบต้องทำลายทิ้งทันที
3. เชื้อรา มีผลทำให้เกิดรอยถลอกหรือช้ำเน่า กำจัดได้โดยการตัดส่วนที่เป็นโรคทิ้ง (fungus diseases) และทำลาย หลังจากนั้นให้ปิดปากแผลด้วยผงซัลเฟตหรือยาฆ่าราอื่นๆ
สกุล Rebutia แคคตัสในสกุลนี้มีอยู่มากกว่า 70 ชนิดและอีกหลากหลายสายพันธุ์ด้วยกัน ชื่อสกุล Rebutia นั้นตั้งขึ้นเพื่อแสดงความเป็นเกียรติแก่ P. Rebut พ่อค้าแคคตัส สำหรับสกุลนี้มีลักษณะเป็นทรงกลมหรือทรงกระบอก ลำต้นอ่อนนุ่ม มักขึ้นอยู่รวมกันเป็นกลุ่มเล็กๆ ในหัวหนึ่งจะประกอบไปด้วยเนินหนาม ตุ่มหนามขนาดเล็กประกอบไปด้วยหนามละเอียด ขนาดเล็ก ซึ่งมีทั้งลักษณะแผ่กระจายหรือแนบชิดไปกับลำต้น มีหลายสีด้วยกัน เช่น สีขาว สีเหลือง สีน้ำตาล
ดอกมีลักษณะทรงกรวย ขึ้นอยู่เป็นรอบๆ ต้นเหนือผิวดิน มีมากมายหลายสี ยกเว้นโทนสีฟ้า ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 เซนติเมตร ส่วนผลมีลักษณะทรงกลม ขนาดเล็กมาก มีหนามเล็กๆ อยู่ 2-3 อัน เมื่อแก่จะมีหลายสี เช่น สีแดง สีเหลือง หรือสีน้ำตาล
แคคตัสสกุล Rebutia มีถิ่นกำเนิดอยู่ในเขตเทือกเขาสูงในโบลิเวีย และทางตอนเหนือของอาร์เจนตินา ในระดับความสูง 3,000 เมตร ซึ่งมีอากาศหนาวเย็น และมีหิมะปกคลุม แต่มีความชื้นในบรรยากาศต่ำ ออกดอกมากในฤดูหนาว […]
สกุล Weingartia แคคตัสในสกุลนี้มีอยู่ด้วยกัน 24 ชนิดและอีกหลากหลายสายพันธุ์ ชื่อสกุล Weingartia ตั้งขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ Wilhelm มีลักษณะเป็นทรงกลม มีทั้งที่ขึ้นเป็นต้นเดี่ยวๆ และขึ้นอยู่รวมกันเป็นกลุ่มๆ ลำต้นเป็นสัน 21 สัน ตุ่มหนามมีลักษณะรูปไข่ ปกคลุมด้วยปุยนุ่มสีขาว มีขนาดใหญ่กว่า 1.25 เซนติเมตร ประกอบไปด้วยหนามข้างที่มีลักษณะโค้งงอ หรือแนบชิดไปกับลำต้น ประมาณ 16 อัน แต่ละอันยาวประมาณ 0.5-3 เซนติเมตร และหนามกลางที่มีลักษณะคล้ายหนามข้าง มีหลายสี เช่น สีขาว สีเหลือง สีน้ำตาล ส่วนปลายหนามจะมีสีเข้มกว่า มีอยู่ประมาณ 3-15 อัน แต่ละอันยาวประมาณ 1-5 เซนติเมตร
ดอกมีสีเหลืองส้มถึงสีม่วง มักออกเป็นวงตรงกลางยอดของต้น ในบางชนิดจะออกดอกมากกว่า 1 ดอกในเนินหนามเดียว ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 3 เซนติเมตร ผลมีลักษณะรูปไข่ มีสีเหลืองเขียวถึงสีเขียวคล้ำ และจะเป็นสีแดงเมื่อแก่ มีขนาดความยาวกว่า […]
สกุล Discocactus แคคตัสสกุลนี้มีอยู่ไม่เกิน 20 ชนิด เจริญเติบโตช้า มักขึ้นเป็นต้นเดี่ยวๆ ทรงกลมแป้น เมื่อต้นมีอายุมากขึ้นอาจะจะแตกหน่อ หรือกิ่งก้านได้ ต้นมีหลายสี ตั้งแต่สีเขียวอ่อน สีเขียวอมน้ำตาล และสีม่วงเข้ม ต้นเป็นสัน 10-25 สัน และมีตุ่มหนามเป็นปุยนุม ประกอบด้วยหนามข้าง 5-20 อัน แต่ละอันยาวประมาณ 3 เซนติเมตร และมักอยู่รวมกันเป็นกลุ่ม และหนามกลาง 1 อัน ซึ่งยาวถึง 8 เซนติเมตร หนามทั้ง 2 ชนิด สามารถจำแนกออกจากกันได้อย่างชัดเจน หนามมีหลายสี ตั้งแต่สีขาว สีเหลือง สีน้ำตาล จนถึงสีดำ
แคคตัสสกุล Discocactus มีถิ่นกำเนิดอยู่ในบราซิล โบลิเวีย และปารากวัย การนำต้นไปเพาะเลี้ยงที่อื่นนอกถิ่นกำเนิดนั้นมักจะนิยมเพาะต้นจากเมล็ดมากกว่านำต้นที่โตแล้วไปเลี้ยง เพราะต้นจะตายได้ง่าย แคคตัสสกุลนี้เจริญเติบโตได้ดีในดินทรายที่มีธาตุอาหารอุดมสมบูรณ์ บางครั้งอาจะจะใช้ดินผสมก็ได้ แต่ต้องมีการระบายน้ำที่ดี ต้นไม่สามารถทนต่ออุณหภูมิต่ำกว่า 10 องศาเซลเชียสได้ […]
|
|